วันพุธที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2555

"ซุเปอร์บิ๊กแมตช์" สุดมันส์เจ๊ากันไป 1-1 กับบทพิสูจน์"เปานอก"



เอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด  1-1  บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด


        ที่สนามเอสซีจี สเตเดี้ยม เจ้าถิ่น "กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด จ่าฝูงของตาราง ลงสนามมา 22 นัด ชนะ 17 เสมอ 5 ยังไม่แพ้ใคร เปิดบ้านรับการมาเยือนของ "แชมป์เก่า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 3 ที่ก่อนเกมนี้ตามหลัง "กิเลนผยอง" อยู่ถึง 17 แต้ม โดยเตะมา 22 นัด ชนะ 10 เสมอ 9 แพ้ 3 โดยเลกแรก เอสซีจี เมืองทองฯ บุกไปเสมอมาได้ 1-1


        โดยเกม "ซุเปอร์บิ๊กแมตช์" ครั้งนี้ สมาคมฟุตบอลไทย ได้เชิญเชิ้ตดำฟีฟ่าอีลิทชาวเกาหลีใต้ ลงมาตัดสินเกมนี้โดยเฉพาะ ประกอบด้วย จิน ยุน โค (ผู้ตัดสิน), ลี จุง มิน (ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1) และ จี ซุง มิน (ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2) ซึ่งทั้ง 3 รายถือว่าเป็นผู้ตัดสินชั้นนำของเกาหลีใต้ รวมถึงทวีปเอเชีย เพราะตลอดปีที่ผ่านมา 3 เชิ้ตดำแห่งแดนกิมจิมีชื่อลงตัดสินในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2012 อย่างต่อเนื่อง ส่วนผู้ตัดสินที่ 4 เป็น "เปาโค้ช" ศิวกร ภูอุดม ผู้ตัดสินไทย


        เกมครึ่งแรก 2 เริ่มได้แค่ 2 นาทีเท่านั้น เอสซีจีฯ ได้ลุ้นก่อนจากจังหวะผ่านบอลมาจากด้านขวาของ ปิยพล บรรเทา มาให้ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ตั้งป้อมซัดบอลแฉลบกองหลังบุรีรัมย์ออกหลังไป เอสซีจีได้เตะมุมขวา มาริโอ ยูรอฟสกี้ เปิดมาเลยออกหลังไป


        นาทีที่ 4 ธีราทร บุญมาทัน ปั่นฟรีคิกจากขวาเข้าไปในเขตโทษเอสซีจี โดน ภานุพงศ์ วงศ์ษา โขกทิ้งออกไปได้


        นาทีที่ 7 เป็นทีมเยือนที่บุกมานำก่อนจากจังหวะเปิดบอลจากขวายาว ไปถึงในเขตโทษเอสซีจีของ อภิเชษฐ์ พุฒตาล และเป็น แฟร้งค์ อาเชียมปง ที่โฉบเข้าไปโขกผ่านมือ กวิน ธรรมสัจจานันท์ เข้าเสาสองไปเป็นบุรีรัมย์นำก่อน 1-0


        นาทีที่ 9 มาริโอ ยูรอฟสกี้ โดนเหลืองแรกของเกมนี้ไปหลังไปสอย จักรพันธ์ แก้วพรม นาทีที่ 10 ใบเหลืองถูกชักออกจากกระเป๋าผู้ตัดสินเกาหลีใต้อย่าง โค ยุง จิน อีกหนโดยเป็น อภิเชษฐ์ พุฒตาล ที่ได้ไปหลังไปฟาวล์หนักใส่ อัดนัน บาราคัต


        นาทีที่ 12 เอสซีจี ได้ฟรีคิก 35 หลา ดัสกร ทองเหลา เขี่ยเปลี่ยนจุดให้ พิชิตพงษ์ ยิงเรียดไม่เข้ากรอบออกหลังไป นาทีที่ 13 เอสซีจี หวิดโดนอีกเม็ดเมื่อ แอนโทนี่ ได้ซัด กวิน รับไม่อยู่ แต่ตามเก็บจังหวะสองไว้ได้


        นาทีที่ 20 ดัสกร ได้ซัดบอลไปแฉลบกองหลัง บุรีรัมย์ ออกหลังไป นาทีเดียวกัน บุรีรัมย์ เปลี่ยนตัวแรกอย่างเร็ว โดยเอา จิรวัฒน์ มัครมย์ ออกแล้วส่ง สุรัตน์ สุขะ ลงแทน


        นาทีที่ 26 มาริโอ ยูรอฟสกี้ ได้ซัดบอลเหินข้ามคานออกหลังไปอีกหน นาทีถัดมา ปิยพล บรรเทา ของเอสซีจีโดนเหลืองไปอีกหลังไปดึง อาเชียมปง ล้มลง


        นาทีที่ 30 เอสซีจี น่าได้ประตูตีเสมอที่สุด จากจังหวะไหลบอลของ อัดนัน บาราคัต ทะลุช่องไปสวยให้ ธีรศิลป์ แดงดา ซัดเต็มเหนี่ยว แต่บอลชนคานออกหลังไปซะก่อน


        นาทีที่ 32 บุรีรัมย์ หวิดได้เม็ด 2 จากการซัดของ แอนโทนี่ แต่เป็น กวิน ที่เซฟไว้ได้


        นาทีที่ 37 เจ้าถิ่น เอสซีจี เมืองทองฯ หวิดโดนอีก เมื่อเสียฟรีคิก สุเชาว์ นุชนุ่ม ปั่นไปเกือบเสียบเสา แต่ กวิน ปัดทิ้งออกหลังไปได้


        นาทีที่ 39 สุรัตน์ สุขะ โดนใบเหลืองไปอีกหลังไปดึง ธีรศิลป์ ล้มลง


        นาทีที่ 44 เกมรุกของ บุรีรัมย์ ยังป่วนแนวรับเอสซีจีได้อย่างดี จังหวะนี้ แฟร้งค์ อาเชียมปง ได้ซัด แต่เลยปากประตูออกหลังไป


        นาทีที่ 45 ธีรศิลป์ ได้โขกแต่บอลข้ามคานออกหลังไป จบครึ่งแรก เอสซีจี เมืองทองฯ ตามหลัง บุรีรัมย์ ไปก่อน 0-1


        ครึ่งหลัง เจ้าถิ่น เอสซีจีฯ หวิดโดนอีก เมื่อแนวรับปล่อยให้ แฟร้งค์ โอเชียมปง หลุดเข้าไปซัด แต่เป็น กวิน ที่เซฟไว้ได้


        นาทีที่ 47 เอสซีจี ได้จุดโทษจากจังหวะที่ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ไปดึง พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ไว้ไม่ให้ "เจ้าแป๊ะ" เข้าไปยิง ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษ และให้ใบเหลืองกับ ศิวรักษ์ ไปด้วย ก่อนที่ "ซูเปอร์มาริโอ" มาริโอ ยูรอฟสกี้ จะรับหน้าที่สังหารเข้าไปเป็นเม็ดที่ 14 ของเจ้าตัวในเกมนี้ให้ เอสซีจี เมืองทองฯ ตามตีเสมอเป็น 1-1 ได้สำเร็จ


        นาทีที่ 55 อัดนัน ได้ซัด แต่ติดบล็อกแนวรับทีมเยือนกระดอนออกมา


        นาทีที่ 60 เอสซีจี น่าพลิกแซงนำ เมื่อ มงคล นามนวด เปิดจากซ้ายมาเข้าหัว มาริโอ ยูรอฟสกี้ ได้โขกบอลชนเสากระดอนมา มาริโอ ได้ซ้ำอีกหนติด เอควัลล่า เฮอร์แมน เตะทิ้งออกมาได้ จังหวะนี้ มาริโอ เจ็บไปด้วยแต่ลงมาเล่นต่อไหว


        นาทีที่ 65 พิชิตพงษ์ได้ยิงหลุดออกหลังไป เอสซีจี ยังแซงนำในเกมนี้ไม่ได้


        นาทีที่ 68 เอสซีจี น่าได้อีกหน แต่ก็พลาดไป เมื่อธีรศิลป์ไหลออกซ้ายให้มาริโอยิง แต่ติดเซฟของศิวรักษ์ซะก่อน


        นาทีที่ 70 เป็นโอกาสได้ลุ้นของเอสซีจีอย่างต่อเนื่อง จากลูกโขกของ ธีรศิลป์ แดงดา แต่บอลยังหลุดเสาสองออกไป


        นาทีที่ 71 ปิยพล บรรเทา ไปดึง แฟร้งค์ โอเชียมปง ล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสินเกาหลีใต้อย่าง โค ยุง จิน ให้ใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดง กับ ปิยพล ออกจากสนามไป เท่านั้นไม่พอ ยังให้จุดโทษกับบุรีรัมย์อีกด้วย แต่จังหวะยิงของ "กบไซเบอร์"  ไปโดน กวิน ที่โชว์หนึบเซฟไว้ได้ แชมป์เก่าพลาดไม่ได้ประตูออกนำแบบเหลือเชื่อ


        นาทีที่ 82 เอสซีจี น่าโดนอีกหน เมื่อ กวิน ออกมาตัดบอลไม่ดีจนเกือบจะโดน โอเชียมปง ยิงเข้าไป แต่บอลปลิ้นไปเข้าทาง แอนโทนี่ ได้ซัด แต่เป็น รี ควาง ชอน เซนเตอร์เกาหลีของเอสซีจี ที่ใช้หัวโขกสกัดออกมาได้ช่วยไม่ให้ทีมเสียประตูในจังหวะนี้


        นาทีที่ 88 ตัวสำรองบุรีรัมย์ อย่าง เอกชัย สำเร โดนใบเหลืองไป หลังไปยิง ทั้งๆ ที่ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 ยกธงเป็นลูกล้ำหน้าของเจ้าตัวไปแล้ว


        ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาทีที่ 92 เอสซีจี เสียฟรีคิกริมกราบซ้าย สุเชาว์ ปั่นไปโดนแนวรับเอสซีจีโขกได้ แต่บอลไม่ไปไหน ก่อนจะเข้าหัวเฮอร์แมนโขก เข้าไป แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 อย่าง จี ซุง มิน ยกธงว่าเป็นจังหวะล้ำหน้า ซะก่อน


        เวลาที่เหลือไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม เอสซีจี เมืองทองฯ เปิดบ้านเสมอกับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่า ไปได้แบบสนุก 1-1



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น